โศกนาฏกรรมวงการฟุตบอล ในอดีตที่ทุกคนไม่ลืมเลือน

ย้อนอดีตกับเหตุการณ์เครื่องบินตกที่มีความเกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอล 

การเป็นนักกีฬาฟุตบอลนั้นแน่นอนว่าสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็คือการเดินทางนั่นเอง ยิ่งหากคุณอยู่ในสโมสรใหญ่ยักษ์หรืออยู่ในทีมชาติที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามยิ่งต้องเดินทางมากกว่าใครเพื่อน นึกว่าจะเป็นการแข่งขันใหญ่หรือการแข่งขันกับทีมชาติเองก็ตาม ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจหากพวกเขานั้นจะมีเหตุการณ์เกี่ยวกับเครื่องบินตกเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เป็นประจำ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปย้อนรอยกันว่าที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์เครื่องบินตกที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลเมื่อไหร่และอย่างไรบ้าง 

เหตุการณ์เครื่องบินจากฝรั่งเศสสู่เวลส์หายสาบสูญ 

เป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมปี 2019 ที่ผ่านมา เครื่องบินที่บรรทุกผู้โดยสารเดินทางจากเมืองน็องต์ในประเทศฝรั่งเศสไปยังเมืองคาร์ดิฟฟ์ของประเทศเวลส์ได้เกิดประสบอุบัติเหตุและสูญหายขณะเดินทาง โดยหนึ่งในผู้โดยสารไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นกองหน้าคนใหม่จากของสโมสรคาร์ดิฟ ซิตี้อย่างเอมิเลียโน ซาลา เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเพื่อค้นหาเครื่องบินติดต่อกันถึง 3 วันโดยครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,700 ตารางไมล์ แต่สิ่งนั้นก็ไม่พบร่องรอยของเศษซากเครื่องบินแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยุติการค้นหาลงอย่างเป็นทางการ 

โศกนาฏกรรมชาเปโคเอนเซ

สโมสรชาเปโคเอนเซนั้นเป็นสโมสรขนาดเล็กในประเทศบราซิล พวกเขาไม่ได้เป็นที่รู้จักหากเทียบกับทีมใหญ่อย่างซานโตส ฟลาเมงโก้ หรือเซาเปาโล ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาใช้เวลาในการเล่นลีกล่างมากกว่า จนกระทั่งปี 2014 เทพนิยายก็ได้ถูกเขียนขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อพวกเขาสามารถก้าวขึ้นสู่หลีกสูงสุดได้สำเร็จอย่างงดงาม เข้าสู่ปี 2016 จากทีมนอกสายตาก็กลายเป็นทีมม้ามืดที่สามารถผ่านเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในรายการโกปาซูดา อเมริกานาได้สำเร็จ พวกเขานั้นเคยผ่านทีมที่แข็งแกร่งมากมายแต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงไม่ลดละความพยายาม แต่แล้วในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันพวกเขาก็ด้วยโดยสารเครื่องบินเช่าเหมาลำขนาดเล็กของสายการบิน LAMIA ออกเดินทางจากประเทศโบลิเวียไปยังโคลัมเบีย ในช่วงที่เครื่องบินกำลังจะถึงจุดหมายกลับเกิดปัญหาขัดข้องขึ้นเสียอย่างนั้น เครื่องยนต์หยุดทำงานและระบบไฟฟ้าจะเกิดความขัดข้อง ด้วยเหตุนี้เครื่องบินจึงดิ่งตกลงพื้นในหุบเขาที่ไม่ไกลจากเมืองเมเดลลินซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของพวกเขาสักเท่าไหร่ เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ทีมต้องสูญเสียทั้งสตาฟฟ์โค้ชและนักเตะไปเป็นจำนวนกว่า 81 ราย มีผู้โชคดีที่เหลือรอดอยู่เพียงแค่ 5 รายเท่านั้น

โศกนาฏกรรมแห่งมิวนิค

ย้อนกลับไปในปี 1958 สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีโปรแกรมเข้าร่วมการแข่งขัน EUROPEAN CUP กับทีมใหญ่ในเซอร์เบีย การแข่งขันนัดแรกพวกเขาสามารถเปิดบ้านเอาชนะได้สำเร็จ หลังจากพักได้ไม่นานพวกเขาก็ต้องเข้าร่วมการแข่งขันรอบต่อไปและสามารถจบเกมด้วยกันเสมอกันได้สำเร็จ หลังจบการแข่งขันพวกเขาได้รวบรวมทั้งนักเตะและทีมงาน รวมทั้งไกด์ท่องเที่ยวและภรรยาเดินทางจากเซอร์เบียสู่แมนเชสเตอร์ เครื่องบินได้ทำการลงจอดในเมืองมิวนิคเพื่อเติมเชื้อเพลิง แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อกัปตันพบว่าเครื่องยนต์เกิดความผิดปกติจนต้องแก้ไขกันให้วุ่น วิศวกรได้แนะนำว่าควรยกเลิกเที่ยวบินเพื่อความปลอดภัย แต่กัปตันกลัวว่าการยกเลิกเที่ยวบินจะส่งผลกระทบกับตารางเวลา พวกเขาจึงตัดสินใจนำเครื่องขึ้นดินแม้ว่าจะมีสภาพอากาศที่เลวร้ายก็ตาม ในขณะที่นักบินกำลังพยายามเร่งเครื่องด้วยความเร็วกว่า 197 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องบินก็ได้ไถลเข้าไปชนกับรั้วของสนามบินและหลุดข้ามถนนไปชนกับบ้านอีกหลังกันเลยทีเดียว ชิ้นส่วนแตกกระจายหลังจากนั้นก็เกิดเพลิงลุกไหม้จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 23 คน เป็นช่วงเวลาที่โศกเศร้าแต่ก็ทำให้เราได้เห็นถึงความช่วยเหลือของคนในวงการกีฬาเช่นเดียวกัน มีหลายทีมให้สโมสรยืมตัวนักเตะและมีหลายหน่วยงานที่บริจาคเงินให้กับพวกเขา เว็บผลบอลสด

โศกนาฏกรรมแห่งซูเปอร์ก้า

หากพูดถึงทีมโตริโน่หลายคนอาจไม่รู้จักสักเท่าไหร่ เนื่องจากพวกเขานั้นต้องประสบกับชะตากรรมที่เลวร้ายจนทำให้จากครั้งหนึ่งที่เคยเป็นทีมที่โด่งดังในอิตาลีกลับกลายเป็นทีมที่เลือนหายไปตามกาลเวลา ย้อนกลับไปช่วงยุค 40 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงไม่กี่ปี อิตาลีได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีเพียงแค่การแข่งขันฟุตบอลที่ช่วยทำให้ประชาชนมีความสุขได้ ในช่วงเวลานั้นโตริโน่เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สามารถคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อาไปได้กว่า 5 สมัย แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมปี 1949 พวกเขานั้นกำลังจะเดินทางกลับสู่อิตาลีโดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของพวกเขา พวกเขาออกเดินทางจากบาร์เซโลน่า แต่เมื่อเครื่องบินเดินทางมาถึงตอนเหนือของประเทศกลับต้องพบกับสภาพอากาศอันเลวร้ายในเมืองตูริน ทัศนวิสัยในการบินเลวร้ายถึงขีดสุด นักบินแจ้งไปยังหอบังคับการบินว่าพวกเขาอยู่บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหารแห่งซูปราการสูงกว่าระดับน้ำทะเลร่วม 669 เมตร แต่เพดานบินในช่วงเวลานั้นอยู่ที่ 600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลเท่านั้น นักบินไม่มีทางเลือกนอกจากเชิดหัวเครื่องบินขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน เครื่องบินพุ่งชนกับกำแพงวิหารอย่างแรงจนเกิดเพลิงลุกไหม้ไปทั่วและมีเศษชิ้นส่วนกระจายไปหมด ลูกเรือทุกคนที่อยู่บนเครื่องบินเสียชีวิตลงในทันที